การใช้งานคำสั่ง IFRAME ใน HTML
22 พ.ย.
2023-11-22 09:16:11
417
siamweb4u
สามารถทำได้โดยใช้คำสั่ง <iframe> ซึ่งเป็นรหัสคำสั่งภาษา HTML
ดังนั้น จึงมีขั้นตอนดังนี้
- ขณะที่กำลังพิมพ์ข้อความ ต้องกด เข้าไปที่หน้า HTML จะปรากฏหน้าที่แสดงรหัสคำสั่ง ภาษามาตรฐานเขียนที่ใช้เว็บ(html)
- แทรกคำสั่ง <iframe> ในตำแหน่งที่ต้องการให้ปรากฏหน้าเว็บซ้อนในกรอบข้อความเรา โดยมีรูปแบบพื้นฐานดังนี้
<IFRAME src=ชื่อที่อยู่URL width=ขนาดความกว้าง height=ขนาดความสูง></IFRAME>
// src=ชื่อที่อยู่ URL Address ของหน้าเว็บที่ต้องการมาลง
// width=ความกว้าง height= ความสูง กำหนดขนาดกรอบที่จะให้ปรากฏ หน่วยเป็นจุดภาพ (pixcel) หรือ % ของหน้าต่างที่แสดงผลนั้น
// (ความกว้าง width ไม่ควรเกิน 800 หรือน้อยกว่า 100% เพื่อไม่ให้ขนาดเฟรมไปเบียดข้อความอื่นๆจนล้นจอภาพ )
// เช่น <IFRAME src="http://hakkapeople.com/book/export/html/151" width=100% height= 600 ></IFRAME> - เมื่อแก้ไขข้อเสร็จแล้กด [Update] เพื่อกลับหน้าจอ edit ตามปรกติ จะเห็นกรอบร่างเฟรมที่แทรกเข้ามา (บางครั้งถ้าเนื้อหาเว็บนั้นซับซ้อนอาจยังไม่แสดงข้อความในกรอบไม่มีปัณหาเมื่อแสดงผลจริง) สามารถกด [แสดงตัวอย่าง] หรือ [ยืนยัน] ได้เลย
เกร็ดความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้คำสังแทรกเฟรมนี้
iframe คือ code คำสัง HTML ใช้สำหรับดึงหน้าเว็บ หรือกรอบข่าวสารจากเว็บอื่นๆ ที่เราต้องการ มาแสดงในเว็บของเรา โดยมันจะยกข้อมูลบนหน้าเว็บที่อ้างถึง มาทั้งหน้าเหมือนต้นทางเดิมทุกประการ (รวมทั้ง header หรือโฆษณา ความเห็นต่างๆ และรหัสป้องกัน script ติดมาด้วยทั้งหมด ในเฟรมนั้นๆ ไม่สามารถตัดส่วนแสดงเฉพาะที่ต้องการ ถ้าต้นทางไม่ได้ทำมาเผื่อไว้ให้ )
ด้งนั้นจึงเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย คือ สามารถ ดึงข้อมูลบนเว็บหน้าอื่นๆ รวมทั้งเกมส์ vdo วิธีการใช้ ระบบป้องกันการคัดลอก หรือทุกอย่างที่เว็บต้นทางทำได้ เมื่อยกมาจะใช้งานได้เกือบ 100% เว้นแต่ขนาดของเฟรม จะถูกตัดหรือย่อเหลือเท่าทีเรากำหนด ดังนั้น ควรคัดเลือกหน้าเว็บที่จะนำมาลง ควรเลือกดูหน้าที่รกน้อยที่สุด หรือสาระที่เราต้องการต้งไม่อยู่ล่างจนตกกรอบภาพหรือถูกส่งอื่นแย่งความสนใจไปก่อน เพราะการแสดงผลจะเริ่มเห็นจากบนซ้ายก่อนเท่านั้นอาจทำให้ผู้ชมสื่อไม่ตรงประเด็น หรือเจอโฆษณาไม่เหมาะสมหลุดมาได้
ซึ่งการทำงาน browser จะแบ่งการโหลดหน้าเว็บเพจหลักเข้ามาเสร็จก่อน แล้วจึงค่อยโหลดเพจย่อยๆ นี้ มาทำละส่วนทำให้ โครงสร้างหลักของหน้าเว็บโหลดได้เร็วขึ้น และเนื้อหาแต่ละส่วนเป็นอิสระจากกัน ไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลมาจากแหล่งเดียวกันก็ได้ หากมีปัญหา error ก็จะไม่ส่งผลกับหน้าเว็บหลักของเราโดยแสดง error ในส่วนเฉพาะของ iframe นั้นๆ
การรูปแบบคำสั่งเพิ่มเติม (คำสั่งตัวเข้มเป็นรูปแบบบังคับไม่มีไม่ได้ นอกนั้นไม่ใช้คำสั่งบังคับ มีไม่มีก็ได้ ค่าใดไม่ใส่ ระบบจะใช้ตามค่าปริยายของแต่ละเครื่อง )
<IFRAME src=ชื่อที่อยู่ URL width=ขนาดความกว้าง height=ขนาดความสูง name=ชื่อของ IFRAME class="classname" id="idname" frameborder=ขนาดเส้นขอบ scrolling=มี:ไม่มี style="รูปแบบ" bordercolor="ค่าสี" align="ตำแหน่งจัดวาง" marginheight="ตัวเลข" marginwidth="ตัวเลข" ></IFRAME>
// src=ชื่อที่อยู่ URL Address ของหน้าเว็บที่ต้องการมาลง
// width=ความกว้าง height= ความสูง กำหนดขนาดกรอบที่จะให้ปรากฏ หน่วยเป็นจุดภาพ (pixcel) หรือ % ของหน้าต่างที่แสดงผลนั้น
// name=ชื่อของ IFRAME ไว้ตั้งชื่อเฟรม เพื่ออ้างถึงในการใช้งานขั้นสูง (ไม่ใส่ก็ได้)
// class=ชื่อของ class ไว้อ้างถึงในการใช้งานขั้นสูง (ไม่ใส่ก็ได้)
// id=ชื่อของ id ไว้อ้างถึงในการใช้งานขั้นสูง (ไม่ใส่ก็ได้)
// frameborder=1 เพื่อกำหนดให้แสดงกรอบเฟรมหรือไม่ (0|no,1|yes) ถ้าไม่ต้องการ ให้ใส่ frameborder=0
// scrolling ถ้า ต้องการให้ใส่ scrolling=yes ถ้า ไม่ต้องการให้ใส่ scrolling=no หรือให้ขึ้นเองถ้าล้นกรอบใช้
// style สามารถใส่ style css ได้ตามปกติ
// bordercolor กำหนดสีของกรอบเฟรม
// alignกำหนดตำแหน่งการจัดวาง left | right | center
// marginheight="
ค่าตัวเลข
(px)
" ระยะห่างขอบทางสูง
// marginwidth="ค่าตัวเลข (px)
" ระยะห่างขอบด้านกว้าง
บทความที่เกี่ยวข้อง